บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน)
(“บริษัท”, “เรา”) ตระหนักถึงความสำคัญของการปกปองข้อมูลส่วนบุคคล โดยนโยบายรักษาความเป็นส่วนตัวนี้กำหนดวิธีการรวบรวม ใช้ เปิดเผย และจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (รวมกันเรียกว่า “การประมวลผลข้อมูล”) ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของบริษัท แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ หรือ เก็บข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงไม่ว่ากรณีใดๆ
นโยบายรักษาความเป็นส่วนตัว นี้ใช้กับผู้ที่เข้าใช้บริการเว็บไซต์/แอพพลิเคชั่น ผู้ที่ซื้อสินค้าหรือบริการจากบริษัท รวมถึงผู้ที่เข้ามาในสำนักงานของบริษัท ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของบริษัท ซึ่งในที่นี้รวมเรียกว่า (“ท่าน”, “เจ้าของข้อมูล”)
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใดๆที่ระบุไปถึงเจ้าของข้อมูลได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ ชื่อ ที่อยู่ รูปภาพโปรไฟล์ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ (IP Address) พฤติกรรมการซื้อของ การเลือกของ และข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต เป็นต้น
ในกรณีที่ท่านเป็นคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ หรือผู้สมัครงาน โปรดอ่านนโยบายรักษาความเป็นส่วนตัวในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตน
ภาพรวมนโยบายรักษาความเป็นส่วนตัว
นโยบายรักษาความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ประกอบด้วยหัวข้อดังต่อไปนี้ :
บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้าง
ในการดำเนินการต่างๆ ของบริษัท บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลตามรูปแบบความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลตามประเภทดังต่อไปนี้
ในบางกรณีบริษัทอาจเก็บข้อมูลอ่อนไหว รวมถึง ศาสนา เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ และประวัติอาชญากรรม ซึ่งบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งเท่านั้น ทั้งนี้ เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้เก็บรวบรวมโดยไม่ต้องขอความยินยอม
หากท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท บริษัทจะถือว่าท่านมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม และบุคคลที่สามได้อนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
วัตถุประสงค์ที่บริษัทเก็บ ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่ เป็นการใช้หรือเปิดเผยเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น หรือเป็นการเปิดเผยต่อบุคคลในบริษัท หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องตามสัญญา หรือดำเนินการตามกฎหมาย หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือได้รับความยินยอมจากท่าน
บริษัทรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บริษัทรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงหรือโดยอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่น เช่น
บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
โดยทั่วไปแล้วบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นและมีฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งฐานทางกฎหมายดังกล่าว สามารถจำแนกได้ดังต่อไปนี้
1. ฐานความยินยอม
(ก) ข้อมูลสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว หมู่โลหิต ประวัติการแพ้อาหาร เป็นต้น: เพื่อประโยชน์ในการจัดเตรียมอาหารสำหรับงานอีเว้นท์ต่างๆ
(ข) ศาสนา: เพื่อประโยชน์ในการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้เหมาะสมกับท่าน
(ค) เชื้อชาติ หรือสัญชาติ: เพื่อประโยชน์ในการทำรายงานทางสถิติ
(ง) ประวัติอาชญากรรม: เพื่อปองกันการทุจริตและรักษาความปลอดภัย
โปรดทราบว่าข้อมูลอ่อนไหวของท่านอาจถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงสถิติเพื่อพัฒนาสินค้าหรือบริการให้เหมาะสมและดียิ่งขึ้น แต่การใช้ข้อมูลอ่อนไหวจะถูกใช้ในลักษณะของข้อมูลที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้
2. ฐานทางสัญญาระหว่างท่านและบริษัท
บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามคำขอเข้าทำสัญญาของท่าน หรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างกันทั้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งรวมถึงการดำเนินการดังต่อไปนี้
(ก) พิจารณาความคุณสมบัติและความเหมาะสมของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือให้บริการแก่ท่าน
(ข) ดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวกับหน้าที่ตามสัญญาของท่าน เช่น ติดต่อท่านเพื่อให้ปฎิบัติตามสัญญา ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสัญญา
(ค) ยืนยันตัวตนของท่านเมื่อท่านต้องการใช้สิทธิของท่านตามสัญญาที่มีไว้กับบริษัท
3. ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยพิจารณาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือบุคคลภายนอก ทั้งนี้ บริษัทจะพิจารณาถึงความจำเป็น ความสมดุลของประโยชน์ดังกล่าวกับสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
(ก) เพื่อรักษาความปลอดภัย เช่น การเก็บข้อมูล/แลกบัตรประชาชน ผู้เข้าเยี่ยมบริษัทหรือโครงการของบริษัท การเก็บภาพวงจรปิด (CCTV)
(ข) เพื่อการบริหารจัดการภายในของบริษัท และกลุ่มบริษัทบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งรวมถึง ในกรณีที่บริษัทหรือบริษัทในกลุ่มบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เข้าควบรวม หรือปรับโครงสร้างองค์กร หรือเหตุการณ์อื่นใดที่คล้ายคลึงกัน บริษัทอาจส่งข้อมูลของท่านไปยังบุคคลภายนอก ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมนั้นภายใต้หลักความจำเป็น
(ค) เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาสินค้าและการบริการต่างๆ เพื่อประโยชน์ของลูกค้าของบริษัทและลูกค้าทั้งหมดของกลุ่มบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน)
(ง) เพื่อสื่อสารและทำการตลาด ในกรณีที่บริษัทเห็นว่าการสื่อสารทำการตลาดนั้นไม่กระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมีนัยสำคัญ และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอยกเลิกการรับข่าวสารหรือการทำการตลาดได้ทุกเมื่อ
(จ) การบันทึกภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว และ/หรือ เสียง เมื่อบริษัทจัดงานอีเว้นท์ สัมมนา หรือกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ โดยภาพถ่ายดังกล่าวมีลักษณะเป็นการเก็บภาพบรรยากาศของงาน
(ฉ) กรณีผู้ที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทเป็นนิติบุคคล บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึง สำเนาบัตรประชาชนหรือข้อมูลติดต่อของผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลนั้นๆ
(ง) เราอาจเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขาย รวมถึง ประวัติการโต้ตอบสื่อสารกับลูกค้า จำนวนการขาย บันทึกการนัดหมายลูกค้า หรือการโทรศัพท์ติดต่อกับลูกค้า เป็นต้น เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ และปรับปรุงการดำเนินงาน
4. ฐานทางกฎหมายอื่นๆ ที่เราใช้เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
นอกเหนือจากฐานทางกฎหมายตามข้อ 1. – 3. บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นๆ คือ ฐานหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท ฐานความจำเป็นเพื่อปองกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ ฐานจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัท ซึ่งการประมวลผลด้วยฐานทางกฎหมายอื่นๆ นั้น รวมถึงกรณีดังต่อไปนี้
(ก) เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องการรายงานงบการเงินของบริษัทที่กำหนดโดยผู้สอบบัญชี และ/หรือหน่วยงานของรัฐ และเพื่อให้ความร่วมมือกับ เจ้าพนักงานที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล และ/หรือ คำสั่งศาลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาคดีหรือการสืบสวนในคดี
(ข) การจัดเก็บข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log file) ตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผ่านกระบวนการทำให้เป็นข้อมูลนิรนาม (Anonymization) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด โดยไม่ขอความยินยอมจากท่าน
บริษัทแบ่งปันและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลประเภทใดบ้าง
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับตามประเภทผู้รับที่ระบุข้างล่างนี้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ โดยบุคคลที่สามผู้รับข้อมูลนั้นอาจอยู่หรือมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งประเภทผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลมีดังต่อไปนี้ (ในแต่ละประเภท ให้รวมไปถึงตัวแทน พนักงานและกรรมการของบริษัท)
(ก.) กลุ่มบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน)
เนื่องจาก บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่มบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งโดยลักษณะการบริหารงานภายในกลุ่มบริษัท เราอาจต้องส่งหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทอื่นๆ ในกลุ่มบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ภายใต้นโยบายรักษาความเป็นส่วนตัว ฉบับนี้โดยบริษัทจะทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกโอนไปอย่างปลอดภัย และมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ทั้งนี้ โดยลักษณะการแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันจะเป็นไปตามความจำเป็นในแต่ละประเภทธุรกิจดังตารางที่แนบมาด้วย
(ข.) ผู้ให้บริการภายนอก
บริษัทอาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลของท่านไปยังผู้ให้บริการภายนอก ในกรณีที่บริษัทว่าจ้างหรือแต่งตั้งบุคคลภายนอกให้ดำเนินการประมวลผลแทน/ในนามของบริษัทเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ เช่น เพื่อการบริหารงานเว็บไซต์ การส่งสินค้าหรือบริการ การทำการตลาด การให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี การให้บริการระบบชำระเงิน เป็นต้น
(ค.) พันธมิตรทางธุรกิจ
บริษัทอาจต้องแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจ ในกรณีที่มีการจัดกิจกรรมสนับสนุนการขายร่วมกัน หรือกรณีที่บริษัทเสนอสินค้าหรือบริการของพันธมิตรให้แก่ท่าน
(ง.) พันธมิตรทางธุรกิจ
บริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือระเบียบบังคับอื่นๆ ซึ่งรวมถึง การเปิดเผยให้แก่หน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย ศาล หรือบุคคลอื่นใด ที่มีกฎหมายกำหนดหน้าที่อย่างชัดเจน หรือเป็นกรณีที่มีเหตุน่าเชื่อว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเป็นกรณีที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท หรือบุคคลภายนอก
ในกรณีที่บริษัทเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลใดๆ นอกเหนือจากในกลุ่มบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทจะทำข้อตกลงกับบุคคลภายนอก เพื่อกำหนดวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และกำหนดหน้าที่ในการปกปองข้อมูลจากการใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่เจตนา เพื่อกำหนดความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล การเปิดเผยข้อมูล ความเสียหาย สูญหาย หรือถูกทำลายของข้อมูล
หากมีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการใดๆ ที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกโอนไปอย่างปลอดภัยและมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าใด
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ เท่าที่จำเป็นเพื่อทำตามวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งไว้ ณ ขณะเก็บข้อมูล หรือตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นๆ กำหนด
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมตารางเวลาที่ระบุระยะเวลาการเก็บรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้ทำให้ท่านมั่นใจได้ว่า เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็นสำหรับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบและออกจากการบันทึกของบริษัทและ ทำให้ข้อมูลนั้นไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
สิทธิและวิธีการใช้สิทธิของท่าน
ภายใต้พระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่าน สอบถามข้อซักถาม หรือร้องเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ท่านสามารถส่งคำร้องขอใช้สิทธิของท่านมายังอีเมล info@kice-center.com โดยบริษัทอาจขอให้ท่านระบุตัวตนของท่านก่อนที่บริษัทจะให้บริการตามคำขอ บริษัทจะดำเนินการตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษรทางอีเมลทันทีที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งโดยปกติจะไม่เกิน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอใช้สิทธิ พร้อมข้อมูลประกอบที่ชัดเจนและเพียงพอจากท่าน
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีสิทธิที่จะปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิของท่านในกรณีที่การใช้สิทธิดังกล่าวเข้าข้อยกเว้นที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้วบริษัทจะไม่คิดค่าธรรมเนียมในการจัดการคำร้องขอใช้สิทธิ แต่หากบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าคำร้องขอใช้สิทธิของท่านไม่มีเหตุอันควรหรือซับซ้อน บริษัทขอสงวนสิทธิเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการตามคำร้องขอใช้สิทธิตามสมควร
นอกจากนี้ ท่านมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล เมื่อบริษัทปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน และท่านเห็นว่าการปฏิเสธนั้นไม่มีเหตุผลสมควร หรือเมื่อบริษัทไม่ได้ตอบรับคำร้องขอท่านภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้
บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บริษัทได้จัดเตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งทางกายภาพและทางเทคนิคอย่างเหมาะสม เพื่อปองกันข้อมูลส่วนบุคคลจากการประมวลผลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปองกันการทำลาย การสูญหาย เสียหายหรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไข โดยอุบัติเหตุหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยังรวมถึงปองกันการใช้ การเปิดเผย หรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น จำกัดกลุ่มบุคคลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล จำกัดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้ กำหนดมาตรการทางวินัยกรณีมีการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ชอบ เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทขอสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดตามที่เห็นสมควร รวมถึงในกรณีที่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย นโยบายของรัฐบาล กฎ ระเบียบ และข้อผูกพันอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงๆ ใดจะถูกประกาศในเว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.kice-center.com/privacy–policy โดยการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะมีผลบังคับใช้ ณ วันที่ประกาศนโยบายฉบับใหม่
ท่านจะสามารถติดต่อบริษัทได้อย่างไร
“บริษัท” ถือว่าเป็นผู้ควบคุมข้อมูลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากท่านมีคำถามใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามที่อยู่ดังต่อไปนี้
เรียน: ฝ่ายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ที่อยู่: บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน)
313 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์ ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
อีเมล: contactcenter@cpland.co.th
ที่อยู่ : 222 หมู่ที่ 12 ถนนมิตรภาพ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองขอนแก่น ขอนแก่น 40000
เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ 09.00 – 17.30 น. / โทร : 091-774-9230